คุยกันประสาชาววัยทอง

 

 

 

ระดับฮอร์โมนที่แตกต่างกันระหว่างหญิงและชาย

 

      ส่วนในผู้ชายนั้นจะมีการหลั่งเทสโทสเตอโรนเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 25 ปี แล้วคงรักษาระดับไว้ได้จนถึงอายุประมาณ 35 ปี หลังจากนั้นโรงงานจะลดอัตราการผลิตความกำหนัดเมื่ออายุ 85 ปี สูงถึง 40% ของระดับวัยกลัดมันที่อายุ 25 ปี จึงไม่เป็นของแปลกที่เรามักเคยได้ยินว่าผู้ชายอายุกว่า 90 ปี ยังสามารถมีบุตรกับภรรยาสาวได้

      ผู้ชายวัยทองที่มีฮอร์โมนเพศชายลดลงเร็วก็มีเหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อย คือ น้อยกว่า10% ที่ขาดฮอร์โมนก่อนอายุ 60 ปี และจำนวนจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามอายุ และหลังอายุ 85 ปี ไปแล้วจะมีจำนวนมากกว่า 35%ที่ขาดฮอร์โมน อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพ ผู้ชายที่ขาดฮอร์โมนก็อาจมีความเฉื่อยชาทางเพศ และมีสมรรถนะทางเพศลดลง การใช้ฮอร์โมนเสริมอาจมีความจำเป็นในชายวัยทองกลุ่มนี้

     เมื่ออายุมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บก็จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ชายที่ใช้วิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสมสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ โรคต่อมลูกหมากโตก็พบได้ไม่น้อยในชายวัยทอง โรคเส้นเลือดตีบตัน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน รวมทั้งยาที่ใช้รักษาโรคเหล่านี้ มักมีผลเสียต่อความรู้สึกเร้าอารมณ์ทางเพศและการแข็งตัวขององคชาต เป็นที่แน่นอนที่สุขภาพทางกายย่อมีผลโดยตรงต่อสุขภาพทางเพศ

      ผู้ชายวัยทองบางคนแม้ยังมีฮอร์โมนเพศชายอยู่ในระดับสูง ทำให้ยังมีความต้องการทางเพศอยู่มาก แต่ก็ไม่ได้ประกันว่าจะยังมีสมรรถนะทางเพศสูงเหมือนเมื่อหนุ่มๆ การตื่นตัวตอบสนองการเร้าอารมณ์ทางเพศมักช้าลงตามอายุ ถ้าการเร้าอารมณ์ทางเพศในวันหนุ่มเปรียบเหมือนการสตาร์ทรถยนต์น้ำมันเบนซินซึ่งไขปุ๊บติดปั๊บ เมื่อมีอายุมากขึ้น การเร้าอารมณ์ทางเพศอาจเหมือนสตาร์ทเครื่องเรือซึ่งใช้น้ำมันเตา ต้องใช้เวลาเผาหัวอยู่นานกว่าจะติดเครื่องได้ ผู้ชายวัยทองที่ไม่ยอมเข้าใจหรือยอมรับความจริงอันนี้ก็จะเที่ยงแสวงหาสิ่งกระตุ้นต่างๆ ทั้งวีดีโอโป๊ หญิงสาวเอ๊าะๆ ยาบำรุงเซ็กส์ราคาแพงๆ ฮอร์โมนต่างๆ เพื่อเร้าอารมณ์ทางเพศ ตลอดจนใช้ยาฉีด ยากิน แต่ที่แน่นอนก็คือ บางอย่างอาจนำไปสู่อาการข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

      จะเห็นได้ว่ามีช่องว่างหรือความแตกต่างไม่สมดุลในเรื่องทางเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นระหว่างชายหญิงหรือสามีภรรยาเป็นช่วงที่ยาวมาก ถ้าสามีภรรยาไม่ตระหนักในเรื่องนี้ ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจ ไม่ได้รับการดูแล/รักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม ก็อาจจะทำให้มีปัญหาตามมาอย่างกว้างขวางมากมาย ตั้งแต่ปัญหาอาชญากรรมจนถึงครอบครัวแตกแยก ล่มสลายก็มี

      เพศสัมพันธ์ในหลายครอบครัวไม่ผิดอะไรกับการข่มขืนกระทำชำเรา เพราะมักมีการขัดขืน และการใช้กำลัง บางครอบครัวโชคดีมีความเป็นพื้นฐาน มีวิถีชีวตที่ดี ก็ปรับดุลกันได้ โดนสามีภรรยามีความสุขและความพึงพอใจโดนไม่ต้องพึ่งการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างเดียว

      ผู้ชายบางคนที่ขาดสติ ติดเหล้า ติดยาเสพติด ก็อาจจะล่วงเกินทางเพศต่อบุตรหลานของตนเองหรือต่อผู้เยาว์ในบ้าน ซึ่งนับวันจะมีมากขึ้น

     ผู้ชายที่มีฐานะดีก็อาจซื้อหาเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ใจแตก และผู้ชายจำนวนหนึ่งก็จะระบายอารมณ์ทางเพศของตนกับหญิงบริการทางเพศ ผลที่มักตามาในการมีคู่นอนไม่เลือกหน้าและขาดการป้องกันที่ดีก็คือการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเอ็ชไอวี/เอดส์

 

อัตราการติดเชื้อ เอช ไอ วี ของผู้ชายไทย
ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคเหนือของประเทศ (2534)


(ข้อมูลจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2528)  

      ผู้ชายไทยวัยทองเป็นเอ็ชไอวี/เอดส์ ในอัตราที่น่าเป็นห่วง แต่ไม่มีสถิติแน่นอน เพราะผู้ชายเหล่านี้ซึ่งมีทั้งแพทย์ผู้ใหญ่ ข้าราชการผู้ใหญ่ รัฐมนตรี เศรษฐีร้อยล้านพันลาน ซึ่งในมรณบัตรมักลงว่าตายด้วยโรคฉกฉวยของโรคเอดส์ เช่น โรคปอดอักเสบติดเชื้อ หรือโรคมะเร็งฯ เสียเป็นส่วนมากเพื่อรักษาเกียรติผู้ตาย

      ปัญหาทางเพศไม่ได้มีเฉพาะในคนวัยรุ่นหรือหนุ่มสาว แต่ปัญหาทางเพศมีได้ในคนทุกเพศทุกวัย ในรูปแบบที่แตกตางกันออกไป ดังนั้นเพศศึกษาจึงมีความจำเป็นในคนทุกเพศและทุกอายุ

      ปัญหาทางเพศในวัยทองดังกล่าวแล้วในปัจจุบันนี้อาจแก้ไขได้โดยง่าย ถ้าหญิงชายวัยทองมีความตระหนักในปัญหา และต้องการจะแก้ไขหรือปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและการให้การปรึกษาที่ดีอาจช่วยลดปัญหาได้มาก การบำบัดรักษาด้วยฮอร์โมนเพศอย่างถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดช่องว่างแห่งความแตกต่างกันระหว่างหญิงชายวัยทองและสร้างความสมดุลในเรื่องชองเพศสัมพันธ์ในครอบครัวไว้ได้อย่างเป็นที่น่าพึงพอใจ